ประวัติ ไค ฮาแวร์ตซ์ ศูนย์หน้าโคตรเพชฌฆาตจากเยอรมนี
ประวัติ ไค ฮาแวร์ตซ์ (Kai Havertz ) ศูนย์หน้าโคตรเพชฌฆาตจากเยอรมนี
ประวัติ ไค ฮาแวร์ตซ์ หากเราจะพูดถึงกองหน้าอันดับต้น ๆ ของโลกในยุคนี้แฟนบอลทุกท่านอาจจะมีชื่อในใจอยู่หลายคน แต่วันนี้เราจะพาแฟนบอลทุกท่านไปรู้จักกับ ดาวยิงดาวรุ่งที่กำลังฟอร์มฮ็อตแบบสุด ๆ คนนั้นคือ ไต ฮาแวร์ตซ์ ศูนย์หน้าโคตรเพชฌฆาตจากเยอรมนี เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ชาวเยอรมนีจับตามองมากที่สุดคนนึง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักประวัติของหนุ่นน้อยคนนี้กัน เชิญไปรับชมกันได้เลยครับ
ประวัติข้อมูลส่วนตัวของฮาแวร์ตซ์
ชื่อเต็ม : ไค ลูคัส ฮาแวร์ตซ์ (Kai Lukas Havertz)
วันเกิด : 11 มิถุนายน ค.ศ. 1999 (23 ปี)
สถานที่เกิด : อาเคิน เยอรมนี
สัญชาติ : เยอรมนี
ส่วนสูง : 1.89 เมตร
สโมสรปัจจุบัน : เชลซี
ตำแหน่งที่เล่น : กองกลางตัวรุก / ปีก / กองหน้า
สวมเสื้อเบอร์ : 29
ลงเล่น : 69
ยิงประตู : 15
ประวัติ ไค ฮาแวร์ตซ์ การเล่นในระดับสโมสรที่ผ่านมา
ค.ศ. 2016 – 2020 Bayer Leverkusen ลงเล่น 118 ยิง 36 ประตู
ค.ศ. 2020 – ปัจจุบัน Chelsea ลงเล่น 69 ยิง 15 ประตู
เส้นทางชีวิตการค้าแข้งของฮาแวร์ตซ์
ไค ฮาแวร์ทซ์ เกิดในเมืองอาเคิน ประเทศเยอรมัน ปัจจุบันมีอายุ 23 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นนักเตะอาชีพที่เริ่มต้นอาชีพค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน โดยเขานั้นเริ่มเล่นฟุตบอลครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น แถมยังสามารถเข้าสู่ทีมอาเลมันนีอา มารีอาดอร์ฟในระดับเยาวชน ซึ่งในช่วงเวลานั้นประธานสโมสรไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นปู่ของเขาที่มีชื่อว่าริชาร์ดนั่นเอง มันจึงกลายเป็นใบเบิกทางที่ช่วยให้เขานั้นสามารถก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลได้ก่อนใครและมีโอกาสในการพัฒนาฝีมือตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก
หลังจากที่เล่นให้กับ ACADEMY ของสโมสรในเยอรมันอยู่สักพักเขาก็ได้รับโอกาสในการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับลีกอันดับ 2 ในเยอรมัน แต่น่าเสียดายที่เขารับใช้ทีมดังกล่าวอยู่เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นก่อนจะย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมอย่างไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นเมื่อมีอายุเพียงแค่ 11 ปี เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นนักเตะที่สามารถโชว์ฟอร์มโดดเด่นได้ตั้งแต่สมัยที่ยังคงเป็นเด็กจนสโมสรชื่อดังต้องดึงตัวเขาเข้ามาอยู่ใน ACADEMY ของตัวเอง และเมื่อย้ายทีมเจ้าตัวก็ไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวแต่อย่างใดเพราะสามารถพิสูจน์ความสามารถของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาสามารถทำผลงานออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก เมื่อเข้าสู่ปี 2016 เขาสามารถทำไปได้กว่า 18 ประตูในการแข่งขันรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ถึงขั้นที่ได้รับเหรียญเงินของนักเตะรุ่นอายุเดียวกันเลยทีเดียว ทำให้ในเวลาต่อมาเขาก็ได้รับโอกาสในการขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสรชื่อดังได้สำเร็จ
หลังจากที่เขาได้ย้ายมาเล่นให้กับทาง ‘ห้างขายยา’ ก็ทำการฝึกฝนฝีเท้านานกว่า 6 ปี จนในวันที่ 15 ตุลาคม 2016 ก็ได้ลงสนามครั้งแรกให้กับทีมชุดใหญ่ โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในการเล่นครึ่งหลัง แต่เข้าก็ยังไม่ได้ช่วยอะไรในการเล่นนัดนั้น เนื่องจากทีมต้องพ่ายแพ้ให้กับ เบรเมน 1-2 แต่เขาก็ยังสร้างสถิติว่าเป็นผู้เล่นอายุน้อย ที่ได้ลงสนามบุนเดสลีก้า ตอนนั้นด้วยอายุ 17 ปี 126 วัน ก่อนที่จะโดนทำลายสถิติจาก ฟลอเรี่ยน เวิร์ตซ์ ซึ่งเป็นรุ่นน้องในทีมของเขาเอง ด้วยอายุ 17 ปี 111 วันในปีเดียวกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2017 เขาได้ทำแอสซิตซ์แรกบนลีกสูงสุด ให้กับการส่งบอลให้กับ คาริม เบลลาร์บี้ ยิงเข้าประตูไป ซึ่งเป็นจำนวนการยิงครบ 50,000 ลูกในศึกบุนเดสลีก้า โดยนับตั้งแต่การก่อนตั้งขึ้นมา จากนั้นอีก 4 วัน ได้ลงเล่นในเวทียุโรป อย่างการแข่งขันยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีกเป็นครั้งแรก เนื่องจากเพื่อนในทีมของเขาไม่สามารถเล่นได้ เพราะโดนโทษแบนไม่ให้ลงสนาม แต่ผลการแข่งรอบนั้นก็ไม่สามารถเอาชนะได้ หลังจากนั้นไค ก็ได้ลงเล่นเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 2 เมษายน เขาสามารถโชว์การยิงประตูทำแต้มให้กับทีม ในการตีเสมอโวล์ฟบวร์ก ในช่วงเวลาทดบาดเจ็บได้ พร้อมทั้งเป็นการสร้างสถิติการยิงที่ทำได้รวดเร็วที่สุดในการแข่งบุนเดสลีก้าด้วย
เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาเขาก็สามารถทำลายสถิติอีกครั้งด้วยการเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงแข่งขันบุนเดสลีกา เยอรมันครบ 50 ครั้งด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปี เป็นการทำลายสถิติของนักเตะในตำนานอย่างติโม แวร์เนอร์ที่เคยทำไว้ได้อย่างงดงาม โดยในปีนั้นเขาลงเล่นทั้งหมดถึง 30 นัดและสามารถทำไปได้กว่า 3 ประตู ช่วยให้สโมสรจบบนอันดับที่ 5 ของตารางได้อย่างงดงาม ในฤดูกาลต่อมาเขาก็ยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ว่าภาพรวมของสโมสรจะออกมาไม่ดีสักเท่าไหร่ก็ตาม แถมยังได้รับโอกาสในการลงแข่งขันครบทุกนัดอีกด้วย ทำไปได้ถึง 6 ประตูซึ่งช่วยทีมได้เป็นอย่างดี พอจบฤดูกาลเขาจึงได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักฟุตบอลเยอรมันแห่งปีเลยทีเดียว
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมและโดดเด่นเกินกว่านักเตะในสโมสรรวมไปถึงนักเตะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันจากสโมสรอื่นทั่วทั้งยุโรป ทำให้ผลงานของเขานั้นเตะตาแมวมองจากสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีกอย่างเชลซีแบบเต็มๆ ทำให้เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาเขาได้รับโอกาสในการเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีกับสโมสรใหม่อย่างเชลซีเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวสูงถึง 65 ล้านปอนด์เลยทีเดียว กลายเป็นนักเตะที่สามารถทำสถิติได้อีกครั้งด้วยการมีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของเชลซีเลยทีเดียว เขาได้ลงสนามให้กับเชลซีครั้งแรกในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2020 ที่ผ่านมานัดเอาชนะไบรท์ตันไปด้วยคะแนน 3 ประตูต่อ 1 เขาสามารถทำประตูแรกให้กับสโมสรใหม่แถมยังสามารถทำแฮตทริกแรกในการเป็นนักเตะอาชีพได้สำเร็จอีกด้วยในการแข่งขันกับเบิร์นลี่ย์ที่จบลงไปด้วยชัยชนะกว่า 6 ประตูต่อ 0 ในการแข่งขันอีเอฟแอล คัพ
ดาวรุ่งชาวเยอรมัน ต้องเจอกับความยากลำบากไม่น้อยในช่วงแรกของปีแรกที่อังกฤษ โดยต้องปรับตัวเข้ากับประเทศใหม่ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัส นอกจากนี้เขายังมีอาการบาดเจ็บและล้มป่วย แต่ฟันฝ่ามาได้จนยุติซีซั่นด้วยโมเม้นต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพค้าแข้ง
หลังความกังวลเรื่องสภาพความฟิตของ ฮาแวร์ตซ์ กลายเป็นอดีตไป นอกจาก 20 ลูกที่เขามีส่วนกับประตูและแอสซิสต์ ความสารพัดประโยชน์ในการเล่นเกมรุกของเจ้าตัวได้กลายเป็นส่วนสำคัญต่อความยืดหยุ่นทางแท็คติกส์ของเราด้วยเช่นกัน
ฮาแวร์ตซ์กับการรับใช้ทีมชาติเยอรมนี
เขามีชื่อติดทีมชาติเยอรมนีสำหรับการแข่งขันยูโร 2020 และยิงได้ 2 ลูกในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับโปรตุเกสและฮังการี พวกเขาตกรอบจากรายการดังกล่าวด้วยน้ำมือของทีมชาติอังกฤษที่เวมบลีย์ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ ฮาแวร์ตซ์ ยังได้โอกาสแสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นอีกครั้งหนึ่ง
โดยปัจจุบันเจ้ายังเป็นตัวหลักของทีมชาติ เยอรมนี ภายใต้กุนซือใหม่อย่าง ฮานซี่ ฟลิค และทำประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก
แต่น่าเสียดายผลงานของทีมชาติเยอรมนีในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ไม่ดีนัก เพราะพวกเขาต้องตกรอบแรก
ผลงานส่วนตัวของ ไค ฮาแวร์ตซ์
รางวัลส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2018-2019
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของบุนเดสลีกา
- ทีมหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดุกาล 2019
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของยุฟ่ายูโรป้าลีก ฤดูกาล 2019-2020
ผลงานกับสโมสร
- แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2020-2021
- แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ฤดูกาล 2021
- แชมป์ยูฟ่าคลับเวิลด์คัพ ฤดูกาล 2021