ประวัติ แฮร์รี่ เคน

ประวัติ แฮร์รี่ เคน เค้าเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 ของกรุงลอนดอน เคน และครอบครัวของเขาล้วนเป็นแฟนบอลของสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จึงทำให้เขาชื่นชอบสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างมาก โดยมี เท็ด เชอริงแฮม อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ เป็นไอดอลของเขา เคน กลายเป็นนักเตะกองหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังจอมพังประตู และเขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยการยิงไป 267 ประตู ทำลายสถิติของ จิมมี กรีฟส์ ตำนานกองหน้าผู้ล่วงลับ

ประวัติ แฮร์รี่ เคน

ประวัติข้อมูลส่วนตัวของ แฮร์รี่ เคน

ชื่อเต็ม : แฮร์รี่ เอ็ดเวิร์ด เคน

วันเกิด : 28 กรกฎคม ค.ศ. 1993 (29 ปี) 

สถานที่เกิด : วอลแทมสโตว์ ประเทศอังกฤษ 

สัญชาติ : อังกฤษ

ส่วนสูง : 1.88 เมตร 

สโมสรปัจจุบัน : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 

ตำแหน่งที่เล่น : กองหน้าตัวเป้า 

สวมเสื้อเบอร์ : 10 

ลงเล่น : 394 ยิงประตู : 267

ประวัติ แฮร์รี่ เคน

ประวัติ แฮร์รี่ เคน ในการเล่นระดับสโมสรที่ผ่านมา

ค.ศ. 2010-11 เลย์ตัน โอเรียนท์ (ยืมตัว) ลงเล่น 18 ยิง 5

ค.ศ. 2012 มิลล์วอลล์ (ยืมตัว) ลงเล่น 22 ยิง 7

ค.ศ. 2012-13 นอริช ซิตี้ (ยืมตัว) ลงเล่น 3 นัด

ค.ศ. 2013 เลสเตอร์ ซิตี้ (ยืมตัว) ลงเล่น 13 ยิง 2

ค.ศ. 2009-ปัจจุบัน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ลงเล่น 394 ยิง 267

เส้นทางชีวิตการค้าแข้งของแฮร์รี่ เคน

ประวัติ แฮร์รี่ เคน

แฮร์รี่ เคน ชื่นชอบฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งเขาได้เล่ยให้กับทีมท้องถิ่นอย่าง ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส ซึ่งในวัยเด็กเขาชื่นชอบทีม สเปอร์ส เป็นอย่างมาก แต่เขากลับได้ไปอยู่ในอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ในวัย 8 ขวบ แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเขาก็ถูก “ไอ้ปืนใหญ่” ตัดสินใจปล่อยตัวออกไป

เนื่องจากในตอนนั้นสภาพร่างกายของ เคน ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก หลังจากนั้นเขาได้กลับไปยังต้นสังกัดเก่าอย่าง ริดจ์เวย์ โรเวอร์ส อีกครั้ง และในวัย 11 ปี เข้าได้ถูกเชิญไปทดสอบฝีเท้ากับ วัดฟอร์ด ในเกมที่พบกับ สเปอร์ส  ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจนไปเข้าตาสตาฟฟ์ของทัพ “ไก่เดือยทอง” และคว้าตัวมาอยู่ในต้นสังกัดทันที

ประวัติ แฮร์รี่ เคน

หลังจากที่ เคน ย้ายเข้ามาอยู่ในอเคเดมี่ของ สเปอร์ส เขาสามารถพัฒนาร่างกายได้อย่างแข็งแกร่ง และพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว จนสโมสร สเปอร์ส จับเขาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 2010 ก่อนถูกปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์กับ เลย์ตัน โอเรียนท์ ในลีกวัน ต่อมาในฤดูกาล 2010-11 เจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยกายิงไป 5 ประตู จากการลงเล่น 18 นัด 

และในฤดูกาล 2011-12 เคน ได้ลงเล่นให้กับ “ไก่เดือยทอง” เป็นครั้งแรกในเกมพบกับ ฮาร์ทส์ ในศึกยูโรป้า ลีก และในฤดูกาลดังกล่าวเขาลงเล่นในเกม ยูโรป้า ลีก ไปทั้งหมด 6 นัด และสามารถยิงได้ 1 ประตู แต่หลังจากจบฤดูกาล เคน ก็ถูกปล่อยยืมอีกครั้ง โดยไปเล่นให้ มิลล์วอลล์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพ และเขาสามารถยิงได้ 9 ประตู จากการลงเล่น 27 นัด

ต่อมาฤดูกาล 2012-13 เคน ได้ถูกปล่อยยืมไปเล่นให้กับ 2 สโมสรอีกครั้ง คือทีม นอริช ซิตี้ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ จนมาถึงซีซั่น 2013-14 สเปอร์ส กลับมาใช้งาน เคน อีกครั้ง และเขาได้ลงในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นตัวจริงนัดแรกในเกมที่ “ไก่เดิอยทอง” ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-1 หลังจากนั้นเขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และในฤดูกาลดังกล่าวเขายิงไปทั้งหมด 4 ประตู จากการลงเล่น 19 นัด

ประวัติเคน

เข้าสู่ฤดูกาล 2014-15 สเปอร์ส ได้แต่งตั้งกุนซือคนใหม่อย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ เคน เพราะเขาถูกไว้วางใจให้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง จนสามารถแจ้งเกิด และกลายมาเป็นตัวหลักของทีมในวัย 21 ปี โดยเขายิงประตูได้ถึง 31 ประตูรามทุกรายการ และคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย

เคน สามารถยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องได้ทุกฤดูกาล แถมยังคว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ได้ 2 สมัย ติดต่อกัน ในฤดูกาล 2015-16 และ 2016-17 ที่ยิงไปได้ 25 ประตู และ 29 ประตูตามลำดับ ต่อมาในปี 2017-18 เขายิงประตูได้มากที่สุดในปีปฏิทิน โดยยิงไปทั้งหมด 39 ประตู ทำลายสถิติ อลัน เชียเรอร์ ที่ทำไว้สูงสุดอยู่ที่ 36 ประตู ในนี้ 1995

นอกจากนี้ ผลงานส่วนตัวของ เคน ในระดับสโมสรและทีมชาติ เขายิงประตูรวมได้ถึง 56 ประตู ถือเป็สถิติมากสุดในปี 2017 ซึ่งปกติแล้วมีเพียงแค่ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ผลัดกันครองสถิตินี้กันสองคน โดยมีอีก 1 นักเตะที่สามารถทำได้นั้นก็คือ ดา บิด บีย่า ที่ยิงให้กับสโมสร บาเลนเซีย และทีมชาติสเปน รวมกันถึง 43 ประตู ในปี 2009

ประวัติเคน

และผลงานฤดูกาล 2019 จนถึงปัจจุบัน เคน ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าจอมสังหาร อันดับต้นๆของโลก ได้รับเลือกให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม กลายเป็นสุดยอดกองหน้าของเมืองผู้ดี แต่เจ้าตัวก็ยังไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้ จนมีหลายคนมองว่า เคน อาจย้ายออกจาก สเปอร์ส เพื่อออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ท้าทายมากกว่านี้

จนกระทั้งในช่วงเปิดฤดูกาล 2021-22 เคน ได้แสดงออกชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจาก สเปอร์ส โดยอ้างว่า ดาเนียล เลวี ประทานสโมสร ได้พูดในฤดูกาลก่อนไว้ว่าจะยอมให้เขาย้ายออกจากทีมได้ แต่ท้ายที่สุดประธานสโมสรได้ออกมาปฏิเสธกับการย้ายทีมของ เคน ร่วมไปถึงปฏิเสธสโมสรอื่นๆ ที่ต้องการคว้าตัวเขาไปร่วมทัพ จนท้ายที่สุดก็ไม่มีการย้ายทีมเกิดขึ้น

ซึ่งซีซั่น 2021-22 เพิ่งจะผ่านมาได้เพียงครึ่งทาง แต่ เคน ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิงไปแล้ว 18 ประตู จากการลงเล่น 31 นัดรวมทุกรายการ และสามารถทำลายสถิติ จิมมี กรีฟส์ ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ สเปอร์ส ด้วยการยิงครบ 267 ประตู ในเกมที่ “ไก่เดือยทอง” เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023

ประวัติ แฮร์รี่ เคน กับการรับใช้ทีมชาติอังกฤษ

เคน ถูกดึงตัวติดทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ชุดยู-17 และหลังจากนั้นก็ติดทีมชาติมาเลื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ยู-19, ยู-20 และ ยู-21 และติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2015 และเจ้าตัวลงเล่นให้ทีมชาติครั้งแรกในเกมยูโร 2016 รอบคัดเลือก เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 โดยเป็นตัวสำรองถูกเปลี่ยนลงมาแทนที่ เวย์ รูนี่ย์ ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถทำประตูได้ พาทัพ “สิงโตคำราม” เอาชนะ ลิธัวเนีย 4-0

และในปี 2018 ทีมชาติอังกฤษ ได้ตั๋วไปลุยศึก ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเขาเป็นตัวความหวังของทีม และได้รับแต่งตั้งให้สวมปลอกแขงกัปตันทีม แต่เข้าไปถึงรอบรอง ก็แพ้ให้กับ โครเอเชีย 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยในศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนั้น เคน ยิงไปได้ 6 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโวฟุตบอลโลกมาครองได้ ซึ่งเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกในรอบ 32 ปี

ล่าสุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ทีมชาติอังกฤษ เอาชนะและผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่เสียท่าพ่ายให้กับ ฝรั่งเศส ไป 1-2 แต่เจ้าตัวยิงไปได้ทั้งหมด 2 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ในการลงเล่น 5 นัด

เกียรติประวัติ

สเปอร์ส : 

  • รองแชมป์ลีกคัพ : 2014-2015 
  • รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก : 2018-2019 
  • ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีจาก PFA : 2014-2015 
  • ทีมแห่งปีของ PFA : 2014-2015, 2015-2016 , 2016-2017 , 2017- 2018 
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร : 2014-2015 
  • ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก : 2015-2016 , 2016-2017 

 

ทีมชาติอังกฤษ : 

  • ผู้เล่นยอดเยี่ยมทีมชาติอังกฤษ : 2017 , 2018 
  • ดาวซัลโวฟุตบอลโลก : 2018 
  • ทีมยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก : 2018

ติดตามผลบอลได้ที่ :: ผลบอลสด

ติดตามประวัตินักฟุตบอล :: ประวัติซนฮึงมิน