ครึ่งหลังเล่นมาได้ 4 นาที อาร์เซน่อล ทักทายก่อน ทากาฮิโร่ โทมิยาสุ เติมขึ้นมาเปิดบอลจากกราบซ้ายไปที่เสาไกลให้ เชซุส โหม่งบอลไปเข้ามือ เฮนเดอร์สัน

แต่จังหวะถัดมา นาที 49 อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 2-0 จนได้เมื่อ เชซุส ไหลบอลไปที่เสาไกลให้ รีส เนลสัน สอดขึ้นมาแต่งบอลเข้าซ้ายแล้วกดเน้นๆ ไปติดเซฟ เฮนเดอร์สัน แต่ยังมีโอกาสซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ

เท่านั้นยังไม่พอ นาที 52 เจ้าถิ่นขยับหนีเป็น 3-0 อย่างรวดเร็ว โดยเป็นการประสานงานของคู่เดิม เชซุส จ่ายบอลไปให้ เนลสัน ได้แหย่เท้ายิงระยะเผาขนเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย

เจ้าถิ่นไม่มีทีท่าจะผ่อนเกมรุก นาที 58 รีส เนลสัน ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โธมัส ปาร์เตย์ วิ่งมาปั่นด้วยเท้าขวาบอลติดไซร์พุ่งเสียงสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม

นาที 78 สกอร์ขยับเป็น 5-0 จากจังหวะที่ เชซุส จ่ายบอลมาให้ มาร์ติน โอเดการ์ด หาจังหวะกดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปงามหยดย้อย

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เซน่อล ถล่ม ฟอเรสต์ 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนนขยับขึ้นแซง แมนฯ ซิตี้ กลับไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้ง ส่วน ฟอเรสต์ ยังมี 9 คะแนนจมอยู่ตำแหน่งบ๊วยของตารางเหมือนเดิม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : อารอน แรมส์เดล, ทาเกฮิโระ โทมิยาสุ, เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา (คีแรน เทียร์นีย์ น.75), กาเบรียล มากัลเญส – กรานิต ชาก้า (เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ น.75), โธมัส ปาร์เตย์ – บูคาโย่ ซาก้า (รีส เนลสัน น.27), มาร์ติน โอเดอการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ – กาเบรียล เชซุส

ฟอเรสต์ (4-3-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน – แซร์ช โอริเย่ร์, สตีฟ คุ้ก, สกอตต์ แม็คเคนน่า, เรนาน โลดี้ – ไรอัน เยตส์, ชีกู กูยาเต้, เรโม ฟรอยเลอร์ – เจสซี่ ลินการ์ด (เอ็มมานูเอล เดนนิส น.64), มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ (เบรนแนน จอห์นสัน น.56), ไตโว อโวนิยี่ (เนโก้ วิลเลี่ยมส์ น.64)