สรุปผลฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5
สรุปผล ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 5 ของกลุ่ม A - D และผลสรุปผลการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยน และ ทีมยังมีโอกาสไปแข่งฟุตบอลยูป้าลีก ของทั้ง 4 กลุ่ม
กลุ่ม A ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่ม คู่แรก นาโปลี ที่การันตีการตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบน็อคเอาท์เรียบร้อยแล้ว ได้เล่นใน ดิเอโก้ อามันโด้ มาราดอนน่า พบ เรนเจอร์ส ทีมอับดับสุดท้าย ที่ยังมีลุ้นไปเตะ ฟุตบอลยูโรป้าหากชนะนัดนี้
เริ่มเกมมาก็เป็นฝั่งเจ้าบ้านบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว และพังประตูจนได้ ในนาทีที่ 11 นาโปลี ได้ประตูขึ้นนำจาก จีโอวานี่ ซิมิโอเน่ และ 5 นาทีต่อมาเจ้าตัวก็ทำประตูได้จากการโหม่งลูกเปิดของ มาริโอ ลุยซ์ จบครึ่งแรกเจ้าบ้าน นำ 2 – 0
เริ่มครึ่งหลังก็ยังเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่ครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว จน ได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 80 จากการโขกลูเตะมุม ของ มาร์ติน ออสทิการ์ด หลังจากนัน้ก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม นาโปลีเป็นผ่าย กำชัย 3 -0 ส่งผลให้ เรนเจอร์ส ตกรอบทันที
อีกหนึ่งคู่เป็น ลิเวอร์พูล เดินทางไปเยือน โยฮันครัฟ อารีน่า บ้านของ อาแจ็ก อัมสเตอร์ดัม ที่ต้องการแต้มนัดนี้เพื่อไปลุ้นโอกาสในการเข้ารอบในนัดสุดท้าย
เปิดฉากมาเป็นเจ้าบ้านกดทีมยืนอย่างอยู่หมัด มีโอาสยิงไปชนเสาตั้งแต่นาทีที่ 2 จาก สตีเว่น เบิร์จเฮาส์ แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นทีมเยือนขึ้นนำจากจังหว่ะสวนกลับ แฮนเดอร์สัน เปิดบอลให้ ซาลาห์ ยิงสวนตัว ผู้รักษาประตูเข้าไปในนาทีที่ 42 จบครืึ่งแรก ทีมเยือนำไปก่อน 1 – 0
เริ่มครึ่งหลังได้ 3 นาที ก็เป็น ดาวิน นูนเญส ทำประตูหนีห่างไปเป็น 2 – 0 จากลูกเตะมุม ต่อมาไม่ถึง 5 นาที ก็ฉีกออกไปเป็น 3 – 0 จาก ลูกยิงของ ฮาร์วี่ เอลเลียต ที่รับบอลแทงทะลุช่องของ ซาลาห์ หลังจากนั้นก็ทำอะไรต่อไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูลเป็นผ่าย ชนะไป 3 – 0 ส่งผลให้ อาแจ็ก ต้องไปเล่นฟุตบอลยูโรป้าลีก เป็นที่เรียบร้อย
กลุ่ม B เป็น คลับ บรูซ ที่การันตีเข้ารอบไปแล้วจะพบกับ เอฟซี ปอโต้ ที หากชนะนัดนี้จะทำให้โอกาสเข้ารองในมือสูงเลยทีเดียว ส่วนอีกหนึ่งคู่ แอตแลนติโก้ มาดริด พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หากใครพแพ้นัดนี้ การันตีไม่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ 100%
โดยคู่แรก คลับ บรูซ ที่เข้ารอบไปแล้ว เปิดบ้าน รับการมาเยือนของ เอฟซี ปอโต้ ทีมดังจากโปรตุเกส ครึ่งแรก ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 33 จาก เมนดี้ เทเรมี่ และจบครึ่งแรก เป็นทีมเยือนนำ 1 – 0
เริ่มครึ่งหลังได้ 3 นาที เจ้าบ้านก็ได้จุดโทษจากจังหวะนอกเกม ในกรอบเขตโทษแล้วกรรมการเช็ค VAR และ เป่าเป็นจุดโทษทันที แต่ ถูกผู้รัษาประตู ปอโต้เซฟไว้ได้ ถึงแม้จะให้ได้ยิงใหม่อีกรอบเพราะผู้รักษาประตูไม่อยู่บนเส้นก็ตาม
หลังจากนั้นก็เป็นทาง ปอโต้ ได้ประตูเพิ่มอีก 3 ลูกรวด จาก อีแวนนิสัน นาทีที่ 57 สตีเฟ่น ออสตาควิโอ้ นาทีที่ 60 และลูกปิดท้าย จาก เมนดี้ เทเรมี่ ทำให้ทีมเยือนถล่มเจ้าบ้านไป 4 – 0 โอกาสเข้ารอบสดใสมาก ลุ้นให้อีกคู่หากจบเสมอก็จะเข้ารอบทันที
และอีกหนึ่งคู่ แอตฯ มากริด เล่น ในรังเหย้า พบ เลเวอร์คูเซ่น โดยเริ่มเกมมาได้ 9 นาที ทีมเยือนเป็นผ่ายขึ้นนำไปก่อน จาก มูสซ่า ดิยาบี้ แต่เจ้าบ้านยังไม่ยอม มาตีเสมอ ได้จากทาง ยานิค การัสโก้ ในนาทีที่ 22
แต่ทางบ้านเจ้าก็ผิดพลาดจากการเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษของตัวเองของ คอเรอา ทำให้โดนฉกไปจ่ายให้ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ยิงนำไปเป็น 1 – 2 เจ้าบ้านบุกอย่างหนักแต่ก็ทำประตูไม่ได้ จบ ครึ่งแรก ด้วยสกอ 1 – 2
เริ่มครึ่งหลังมาก 15 นาที เจ้าบ้านก็สามารถทำประตูตีเสมอได้จาก โรดิโก้ เดอ ปอล ปั้นเข้าไป หลังจากนั้นเกมเจ้าบ้านหวัง ปิดบัญชีให้ได้จนนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาลูกเปิดเตะมุมเข้ามาจากฝั่ง แอตฯ มาดริด เหมือนจะไม่มีอะไรจนกรรมการเป่าจบเกม
แต่ก็มีดราม่าโดนฝั่งเจ้าบ้านฟ้องแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ กรรมการเชค VAR แล้ว จึงกลับมาเป่าให้จุดโทษ เป็น ยานิคกา รัสโก้ ยิงไปเตะเซฟ ก่อนบอลกระดอนมาเข้าทาง ซาอูลโขกไปชนคานกระดอนกลับมาให้ เรนิลโด้ซ้ำดาบสาม ไปติด กาสรัสโก้ เด้งออกไป จบเกมเสมอกัน กอดคอกันตกรอบ ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกเรียบร้อย
กลุ่ม C เป็นทาง บาเยิร์น มิวนิค เข้ารอบ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่ม ไปแล้ว 100% จะพบกับบาเซโลน่าที่ต้องชนะเท่านั้น แล้วไปลุ้นคู่อินเตอร์ มิลาน ให้แพ้ วิคตอเรียเพลงเซ่น จึงมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ
แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรกลิกโผ บาเยิร์น มิวนิค ก็เอาชนะ บาเซโลน่าไปอย่างง่ายดาย โดยได้ประตูนำในนาทีที่ 10 จากการหลุดมาดวลเดี่ยล ของ ซาดิโอ มาเน่ ยิงเข้าไป จากนั้นก็ยิงได้เพิ่มในนาที ที่ 33 จาก ซูโป โมติง และลูกปิดท้าย จาก ปาวาร์ ในนาทีทดเจ็บ จบเกมบาเซโลน่า พ่าย บาเยิร์น ยับ 3 – 0 ส่งผลให้ร่วงลงไปเล่นยูโรป่าลีก เป็นที่เรียบร้อย
อีกหนึ่งคูก็เป็น อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านทุบ วิคตอเรียเปลเซ่น ยับ 4 – 0 ตีตั๋วเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย โดยได้ประตูจาก เฮดริก มาคิตายาน ในนาทีที่ 33 และแเอดิน เซโก้ ในนาทีที่ 42 และ 66 และปิดท้ายด้วยประตูของ โรเมอู ลูกากู ในนาที ที่ 87 ควง บาเยิร์น มิวนิค เข้ารอบน็อคเอาท์
กลุ่ม D กลุ่มสุดท้ายสุดท้ายของ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกรอบแบ่งกลุ่ม เป็นกลุ่มที่ต้องไปวัดกันจนนัดสุดท้ายเพิ่มลุ้นลิ่วรอบน็อคเอาท์ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก
โดยคู่ของ ทอตแน่มฮอท สเปอร์ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน โดยนั้นนี้หา สเปอร์ต้องการชัยชนะเพื่อการันตีการเข้ารอบน็อคเอาท์ ส่วน สปอร์ตติ้งยังก็ต้องวัดนัดสุดท้าย
แต่เมื่อเกมเริ่มครึ่งแรก สปอร์ตติ้ง ลิสบอน เป็นฝ่ายออกนำก่อนจาก มาคัส เอ็ดเวิร์ด ทางเจ้าบ้านยายามบุกหวังประตูคืน แต่ก็ทำไม่ได้ จบครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 0 – 1
ครึ่งหลังยังเป็นเจ้าบ้านโหมและได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 80 จากลูกโหม่งของ เบนทันคู และยังมีโอกาสแซงมากมายแต่ทำไม่ได้ จนสุดท้ายได้ประตูขึ้นนำ จาก แฮรี่เคน แต่โดน VAR จับล้ำหน้า ทำให้จบเกมอันโตนิโอ คอนเต้ โดนไล่ออกด้วย และลุ้นต่อนัดสุดท้าย
ส่วนอีกหนึ่งคู่ ไอทรัคท์ แฟรงเฟิร์ต เปิดบ้านรับ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่หาก เจ้าบ้านแพ้ก็จะตกรอบทันที และทีมเยือนชนะก็จะเข้ารอบน็อคเอาท์ทันที โดยเริ่มเกมมา เพียง 3 นาที เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำจาก ไดจิ คามาดะ
แต่ก็โดนทีมเยืนตีเสมอในนาทีที่ 22 จาก เกวนดูชี่ หลังจากนั้น 5 นาที ไอทรัคท์ แฟรงเฟิร์ต ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจาก แรนดัล โคโล มูอานี่ หลังจากนั้นทีมเยือนพยายามตีเสมอ สุดท้ายทำไม่ได้ จบเกม เจ้าบ้านชนะไป 2 – 1
ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย โดยทั้ง 4 ทีมนี้ ใครชนะในนัดสุดท้ายก็จะการันตีการเข้ารองน็อคเอาท์อย่างแน่นอน และมีเพียง สเปอร์ทีมเดียวที่ ไม่ตกรอบแน่นอนแล้วขึ้นอยูกับว่าจะไปต่อที่ แชมเปี้ยนลีก หรือ ยูโรป้าลีกเท่านั้นเอง
ติดตามผลบอลสดได้ที่ : ผลบอลสด ผลบอลสด THscore
ติดตามข้อมูลการวิเคาะห์บอลได้ที่ : วิเคราะห์บอล UFAPB