สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 22 ต.ค. 65
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประวันที่ 22 ตุลาคม มีการแข่งขันทั้งหมด 4 คู่ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ ที่เชลซี ต้องต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โดยในเกม คู่ 18.30 น็อตติ้งแฮม ฟอเรส เปิดรัง เดอะ ซิตี้กราว รับ ลิเวอร์พูล ที่ต้องการชัยชนะเป็นอย่างยื่งเพื่อทำคะแนนไล่จี้ TOP 4
เปิดมา ในนาทีที่ 8 ลิเวอร์พูล มีโอกาสขึ้นนำจากบอลยาวกลางสนามของ เอเลียต ตักข้ามแนวรับของทีมเจ้าบ้านมาให้ คาวัลโญ่ ได้ยิงจ่อ ๆ แต่ยังติดเซฟของ ดีน แฮนเดอสัน
แต่ในนาทีที่ 30 เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นขึ้นนำจากการสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลางสนาม ของ อโวนิยี่ ไหลบอลต่อไปทางซ้ายให้ เจสซี่ ลินการ์ด ได้ยิงเต็มข้อ แต่ยังตรงตัว อลิซอน เบเกอร์ หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมอยู่ผ่ายเดียว จบหมดครึ่งแรก ยังเสอกัน 0 – 0
เริ่มครึ่งหลัง ได้ 10 นาที ลิเวอร์พูล ก็งานเข้า จากจังหว่ะที่ โจ โกเมส พลาด เสียบอลกลางสนามให้ อโวนิยี่ จนต้องทำฟาลว์
หลังจากนั้น ฟอเรส ได้ลูกฟรีคิก โดยเปิดทางกราบขวาให้ สตีฟ คุก ยัดต่อเข้ามาตรงกลาง บอลมาถึง อโวนิยี่ แปไปชนเสา แต่ยังกระเด้งมาให้ซ้ำดาบ 2 เข้าไป ฟอเรส เจ้าบ้านออกนำไปก่อน 1 – 0
ด้านทีมเยือพยายามโหมอย่างหนัก มีลุ้น จากลูกโขกจ่อ ๆ ของ ฟาน ไดจ์ และ เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล แต่ยังไม่ผ่านมือ ผู้รักษาประตู เจ้าบ้าน จบเกม น็อตติ้งแฮม ฟอเรส เฉือนชนะ ลิเวอร์พูลไป 1 – 0
คู่ 21.00 คู่แรก เอฟเวอร์ตัน เปิด กูดิสันพาร์ค รับการมาเยือน ของ คลิสตัน พาเลซ โดยเจ้าบ้าน พ่ายมา สามนัดติดก่อนหน้านี้ โดยนัดนี้อาจชี้ชะตาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด
โดยเอฟเวอร์ตันเปิดเกมมาได้ดีจนได้ประตูขึ้นนำในนาที ที่ 11 ที่ ไคลเวิร์ต เลวิน ตัดบอลได้ และทำชิ่งกับ อเล็ก อิโวบี้ มาแตะบอลหลบ มาร์ค เกฮี ไปยิงอย่างสุดสวย เอฟเวอร์ตันขึ้นนำ 1 – 0 หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกที่ สกอร์นี้
ครึ่งหลังก็ยังเป็น เอฟเวอร์ตัน ที่ทำได้ดีกว่าจนขึ้นนำ เป็น 2 – 0 จากจังหว่ะ สวนกลับขึ้นมา ทางขวาของ กอร์ดอน ก่อนไหลมาตรงกลางให้ โอนาน่า ไหลต่อมาทางซ้ายให้ ไมโคเลนโก้ยิงเน้น ๆ ติดเซฟ ของ กูเอต้า แต่บอลยังไหลหน้าประตู ให้ กอร์ดอน ซ้ำดาบสองเข้าไป
สุดท้ายก่อนหมดเวลา 10 นาที เอฟเวอร์ตัน ก็ได้เพิ่มอีก 1 ลูกจากการทำชิ่งกันในกรอบ 18 หลาของ อิโวบี้ ให้ ดไวท์ แมคนีลยิง ปิดกล่องให้ เอฟเวอร์ตัน เอาชนะ พาเลซ ไป 3 – 0
คู่ 21.00 คู่ที่สอง เป็น รองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นในเอติฮัด สเตเดี้ยม พบกับ ไบร์จตัน แอนด์โฮพ อัลเบี้ยน ทีมอับดับ 8 ของตาราง
เริ่มเกมก็เป็นทางฝั่งเจ้าบ้านครองบอลแต่ยังไม่ได้โอกาสเท่าได้นัก เพราะวันนี้ทาง ไบร์จตัน วางแทคติคมาค่อนข้างดี จนกระทั้ง นาที่ 22 เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำจาก เออร์ริ่ง เบา ฮาลันด์ รับบอลยาวจาก เอเดอสัน หลุดเดี่ยวมายิงแบบสบาย
ต่อมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จุดโทษ จาก แบร์นาโด ซิลวา โดนผลัก และสกัด บอลในกรอบเขตโทษ ซึ่งเป็น ฮาลันด์ เป็นคงสังหารจุดโทษ เข้าไป ไม่พลาด จบครึ่งแรก เจ้าบ้าน นำ 2 – 0
เริ่มครึ่งหลังเป็น ไบร์จตัน ทำได้ดีกว่า จนได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะขึ้นเกมด้าน ซ้าย ซอลลี่ มาร์ช ไหลมาหน้ากรอบให้ เลอานโดร ทอร์ดซาร์ จับหนึ่งจังหวะ และยิงยัดเสาแรกไปได้อย่างสวยงาม ไล่ขึ่นมาเป็น 2 – 1
จากนั้น ไบร์จตัน ครองเกมบุกมาเพื่อหวังประตูตีเสมอ แต่สุดท้ายเป็น เควิน เดอ บรอย ที่รับ บอลจาก แบร์นาโด ซิลวา ที่มาจ่ายตรงกลาง แล้วตะบันไกลระยะ 25 หลา เข้าไปอย่าง สวยงาม จบเกม เจ้าบ้านกำชัย ไป 3 – 1 ตามจ่าฝูง 1 แต้ม และแข่งมากกว่า 1 นัด
คู่สุดท้ายของฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ เป็นคู่ บิ๊กแมตช์ระหว่าง เชลซี พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์ โดยการพบกับ 4 นัดหลังสุด เสมอกันทั้งหมด
เริ่มเกมมาเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ได้โอกาส ยิงหน้ากรอบ ของแอนโทนี่ แต่ เกป้า อาริสซาบาลาก้า ก็ปัดทิ้งออกไปได้
จากนั้น นาที ที่ 27 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดบอลจากตรงกลางได้ บรูโน่ เฟอนานเดส จ่ายตัดให้ มาคัส แรชฟอร์ด หลุดไปยิง แต่ยังติดเซฟนายทวารเจ้าบ้าน
เจ้าบ้านมีโอกาสบ้างจาก สเตอริ่งที่ปั้มบอลกับ มาติเนส แล้วบอลกระฉอกมาเข้าทาง โอบาเมยัง ตวัดเร็วด้วยขวาบอลออก ข้าง ไปนิดเดียว
จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรกทีมเยือนได้เสียวอีกหนึ่งครั้งจาก บรูโน่รับบอลมาจาก มาติเนสแล้วไหลต่อเร็วให้แอนโทนี่ ยิงด้วยขวา บอลปลิ้นออกไป อย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0 – 0
เริ่มครึ่งหลังทั้ง เป็นเชลซีได้ครองเกมมากกว่าจนกระทั้งได้ลูกเตะมุม และเป็น ชาโลบาที่ได้ขึ้นโขกบอล ชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
และในนาที ที่ 86 เจ้าบ้านได้จุดโทษจากจังหว่ะ ที่ แมคโทมิเนย์ ไปเหนี่ยวใส่ โบรย่าล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที และเป็นจอจินโญ่สังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด เชลซีขึ้นนำไป 1 – 0
แต่สุดท้ายทีมเยือนนวดใส่อย่างหนัก จนได้ประตูตีเสมอในช่วง ทดเจ็บ จากที่ ลุค ชอว์ เปิดมาเสาไกลให้ คาซิเมโร่โขกไปเสาสอง ติดเซฟ เกป้า ปัดได้ปลายมือแต่ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนวิถีบอลทำให้เบียดเสาร์ บอลไหลข้ามเส้นเข้าไป
หมดเวลา เชลซี เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสนุก 1 – 1 ทำให้ เชลซี ยังนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ 1 แต้ม
ติดตามผลบอลสดได้ที่ : ผลบอลสด ผลบอลสด THscore
ติดตามข้อมูลการวิเคาะห์บอลได้ที่ : วิเคราะห์บอล UFAPB