เซเนกัล ทำได้ผงาดคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ สมัยแรกได้สำเร็จ "ซาดิโอ มาเน่" ซัดชัยปิดกล่องช่วงดวลจุดโทษ
ก็ได้จบกันไปแล้วกับศึกฟุตบอลแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 ที่พึ่งจัดขึ้นเป็นสมัยแรก โดยในนัดชิงเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง เซเนกัล-อียิปต์ และเป็นการพบกันเองระหว่าง 2 ดาวเตะหงส์แดง ลิเวอร์พูล อย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยในนัดนี้ดูจากรูปเกมแล้วทางฝั่ง เซเนกัล ที่มีขุมกำลังเหนือกว่าอยู่แล้ว ดูเป็นฝ่ายบุกใส่ตลอดทั้งเกม และมีจังหวะจบสกอร์ที่มากพอสมควร แต่นายด่านทีมชาติอียิปต์อย่าง โมฮาเหม็ด อาบู กาบาล กับโชว์ฟอร์มในนัดนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้จบ 120 นาที เสมอกันไป 0-0 แต่ผู้ชนะต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น จึงต้องตัดสินกัน ด้วยการดวลจุดโทษ และก็เป็นทางทีมชาติเซเนกัลที่แม่นจุดโทษกว่า เอาชนะไปด้วยประตูการดวลจุดโทษ 4-2 ผงาดคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2021 เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ ชาติแอฟริกาใต้
ดิอาซเปิดตัวสวย เอลเลียตต์ลงสนามหลังหายเจ็บหนัก พร้อมโชว์ฟอร์มโหด ลิเวอร์พูลอัดคาร์ดิฟฟ์ ลิ่วรอบ 5 เอฟเอ คัพ ไปพบกับ นอริช
หลุยส์ ดิอาซ ดาวยิงชาวโคลอมเบีย และฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ค่ำคืนที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ลงสนามโชว์ฟอร์มสุดโหดทุบคาร์ดิฟฟ์ 3-1 ทั้งสองคนนั้น มีส่วนกับประตูทั้งสิ้น โดยลิเวอร์พูล ใช้โควต้าเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวสองคนในนาทีที่ 57 ส่งทั้ง ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ และ หลุยส์ ดิอาซ โดยนาที ที่ 68 เป็นความขยันของ หลุยส์ ดีอาซ ที่ไปแย่งบอลกับกองหลังคาร์ดิฟฟ์ก่อนจะเปิดบอลย้อนกลับเข้ามาให้มินามิโนะ วิ่งมาซัดเต็มๆ เท่านั้นยังไม่พอ นาที 76 เครื่องจักรสีแดงก็ได้ประตูลูกที่ 3 อีก จากเจ้าหนู ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตาม คาร์ดิฟฟ์ ไม่ยอมง่ายๆตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 ในนาทีที่ 80 จากจังหวะสวนกลับเร็ว อิซัค เดวิส ไหลบอลให้ รูบิน คอลวิลล์ หลุดมากดด้วยขวาในเขตโทษ เคลเลเฮอร์ หมดสิทธิ์เซฟ จบเกม ลิเวอร์พูลอัดคาร์ดิฟฟ์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
ต่างดาวคืนฟอร์ม บาซ่า 10 คนแต่คมกว่าทุบตราหมี 4-2 แซงขึ้นอันดับ 4 ของตาราง ศึกลาลีกา สเปน
บิ๊กแมตช์ ลาลีกาสัปดาห์นี้ เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ที่ตอนนี้อยู่อันดับ 5 ของตาราง เปิดคัมป์ นู ต้อนรับทีม “ตราหมี” แอต.มาดริด โดยเกมนี้รางวัลของผู้ชนะ คือการขึ้นอันดับ 4 ของตาราง และผลของคู่นี้คือ บาเซโลน่า ของ ชาบี เอร์นานเดซ สามารถเอาชนะ ไปได้ 4-2 ขยับขึ้นไปอันดับที่ 4 แทน แอต.มาดริด โดยเพียง 8 นาที หลุยส์ ซัวเรซ เติมขึ้นมาทางฝั่งขวาของเปิดเข้ากลางให้ ยานนิค การ์ราสโก้ ยิงตามน้ำทันทีแบบไม่จับ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 10 บาร์ซ่า ตามตีเสมออย่างรวดเร็ว เมื่อ ดาเนี่ยล อัลเวส เปิดบอลข้ามฝั่ง ไปให้ ยอร์ดี้ อัลบา ซัดบอลแบบไม่จับเสียบเสาร์สองเข้าประตูไปอย่างสุดสวย และ นาทีที่ 21 ของเกม อดาม่า ตราโอเล่ ก็ได้เปิดบอลจากริมเส้นให้เจ้าหนู ปาโบล กาบี โขกแฉลบ ยานนิค การ์ราสโก้ ขึ้นไป ตราหมีไป 2-1 ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นาทีที่ 43 เมื่อเจ้าต่างดาวได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเปิดและเป็น โรนัลด์ อาเราโฮ ยิงจ่อๆไม่เหลือ เจ้าถิ่นออกนำห่าง 3-1 จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 3-1 ต่อมาครึ่งหลังเพียงไม่กี่นาที ในนาทีที่ 49 กาบี ปาดเข้ามาในกรอบบอลแฉลบแนวรับตราหมีก่อนถึง ดานี่ อัลเวส วิ่งมาอัดเปรี้ยงเดียวแบบไม่จับส่งบอลเข้าก้นตาข่าย หนีห่าง แอต.มาดริด 4-1 แต่แล้ว นาที 59 แอต.มาดริด ไม่ท้อไล่มาเป็น 2-4 บอลเปิดจากด้านขวามาให้ โฮเซ่ คิมิเนซ โขกชงให้ หลุยส์ ซัวเรซ วิ่งโฉบมาโหม่งบอลเข้าไปไม่เหลือ นาที 69 บาร์เซโลน่า ต้องเหลือแค่ 10 คนหลัง ดานี่ อัลเวส ไปเล่นนอกเกมหลังเปิดปุ่มย่ำใส่ ยานนิค การ์ราสโก้ จนผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที หลังจากนั้นทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมบาเซโลน่า ชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 ขยับขึ้นมาอันดับ 4 โดยมีคะแนน 38 แต้ม
เจ้าป่าทำช็อกอัดจิ้กจอกสยาม 4-1 ยับ ลอยลำเข้าสู่รอบ 5 ต่อไป
ศึกฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ รอบสี่ คืนวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่ารายการนี้ บุกรัง “เจ้าป่า” นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เจ้าบ้านนำ 1-0 นาทีที่ 23 ฟอเรสต์เฮก่อน เบรนนัน จอห์นสัน วางบอลข้ามมาทางเสาซ้าย คีแนน เดวิส โหม่งตั้งย้อนเข้าหน้าประตู และเป็น ฟิลิปป์ ซินซ์เคอร์นาเกล ยกเท้ากระทุ้งในกรอบ 6 หลา เจ้าบ้านนำ 1-0 อีกเพียงนาทีเดียว ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ บังบอลก่อนไหลคืนให้นายทวาร ทว่าดันมี เบรนนัน จอห์นสัน สอดมาฉกบอลพร้อมแปหนี แดนนี่ วอร์ด พาเจ้าป่าทิ้งห่าง 2-0 นาทีที่ 32 เจมส์ การ์เนอร์ โยนเตะมุมด้านขวา โจ วอลราลล์ โหม่งบอลกดพื้นเด้งผ่านมือนายด่านจิ้งจอกซุกตาข่าย เจ้าฟ่าหนีห่าง 3-0 ช่วงนาทีที่ 40 เจด สเพนซ์ ได้โอกาสซัดในเขตโทษแต่โดนนายด่านทีมเยือนเซฟ ก่อนจังหวะสวนกลับกลายเป็น เจมส์ แมดดิสัน แทงบอลออกซ้าย เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แตะหลบนายด่านเจ้าถิ่นที่ออกมานอกกรอบ แล้วยิงเรียดบอลกลิ้งเข้าประตู หมดครึ่งแรก จิ้งจอก ตามอยู่ 1-3 เจ้าป่าบวกเพิ่มนาทีที่ 61 เจด สเพนซ์ เลี้ยงบอลทำชิ่งกับ ฟิลิปป์ ซินซ์เคอร์นาเกล ก่อนหลุดตัวประกบจิ้งจอกมาหวดสวนตัว แดนนี่ วอร์ด ส่งบอลกองก้นตาข่ายอีกเม็ดฉีกหนี 4-1 จบเกมเลสเตอร์บุกไปแพ้ นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ถึงถิ่น 4-1 ตกรอบไปตามระเบียบ
ดูซาน วลาโฮวิชและเดนิส ซากาเรีย ประเดิมนัดแรกให้ "ม้าลาย"ฟอร์มโหด ยิงทั้งคู่ไล่ตบ เวโรน่า 2-0 ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
เริ่มเกมมาได้แค่ 13 นาที “ม้าลาย” ยูเวนตุส ทะยานขึ้นเหนือ เวโรน่า ทันที 1-0 จากจังหวะที่แนวรับทีมเยือนสกัดมาเข้าทาง เปาโล ดีบาล่า กระดกบอลจังหวะเดียวขึ้นหน้าให้ ดูซาน วลาโฮวิช หลุดเข้าไปก่อนยกบอลข้ามหัวนายด่านเวโรน่าเข้าไปอย่างเหนือชั้น นาที 61 จากจังหวะบอลสวนกลับ โมราต้า ไหลออกขวาให้ เดนนิส ซากาเรีย แข้งใหม่วิ่งมาซัดบอลเข้าไปตุงตาขายให้ ยูเวนตุส นำห่าง 2-0 จบเกมยูเวนตุสอัดเวโรน่า 2-0 แซง อตาลันต้า ขึ้นที่ 4
เสือใต้ยังดุอัด ไลป์ซิก สุดมัน 3-2 นำลิ่วเป็นจ่าฝูง บุนเดสลีกา เยอรมัน ทิ้งห่าง อันดับสอง เสือเหลือง ถึง 9 แต้ม
เกมนี้ ยูเลียน นาเกิลสมันน์ นายใหญ่ “เสือใต้” จัดทัพแบบจัดเต็ม โดยเฉพาะแนวรุกที่มาครบทั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, โธมัส มุลเลอร์ และ ลีรอย ซาเน่ ส่วนทีมเยือนมี คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กับ ดานี่ โอลโม่ ช่วยปั้นเกมรุกอยู่หลัง อันเดร ซิลวา หัวหอกเลือดฝอยทอง นาทีที่ 12 บาเยิร์น ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ยิงเน้นๆ ไปติดเซฟ เพเทอร์ กูลาชซี่ บอลมาเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ยิงซ้ำเข้าไปง่ายๆ นาทีที่ 27 ไลป์ซิก ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ บาเยิร์น เสียบอลแดนกลาง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ได้พาบอลขึ้นหน้า ก่อนผ่านให้ คอนราด ไลเมอร์ ที่ตบบอลเข้ากลาง และเป็น อันเดร ซิลวา ยื่นเท้าแตะบอลค่อยๆ ไหลผ่านเส้นประตูเข้าไป นาทีที่ 34 บาเยิร์น เกือบขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะกึ่งยิงกึ่งเปิดของ คิงสเล่ย์ โกมัน ซึ่งต้องชม กูลาชชี่ ที่บินปัดบอลปลายมือชนเสา นาทีที่ 44 “เสือใต้” ขึ้นนำอีกครั้งจนได้เป็น 2-1 จากจังหวะที่ โกมัน วางบอลเข้ากลางแบบเน้นๆ จากฝั่งซ้าย และเป็น เลวานดอฟสกี้ วิ่งเข้ามาโหม่งบอลย้อนศรเข้าไปอย่างเด็ดขาด นาทีที่ 53 ไลป์ซิก ตามตีเสมอได้อีกรอบเป็น 2-2 ซึ่ง ไลเมอร์ เจ้าเก่า แทงบอลให้ เอ็นคุนคู หลุดเข้าไปยิงบอลผ่านตัว นอยเออร์ อย่างเด็ดขาด กระนั้นนาทีที่ 58 “เสือใต้” ขึ้นนำหนสามเป็น 3-2 ซึ่งถือว่ามีโชคช่วย จากจังหวะที่ แซร์ช นาบรี้ ได้เปิดบอลจากฝั่งขวา บอลแฉลบ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เปลี่ยนทางเข้าประตูไป จบเกม บาเยิร์น เปิดบ้านเอาชนะ ไลป์ซิก 3-2
"ห้างยา" ฟอร์มดุ บุกยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้ เสือเหลือง คาบ้าน 5-2 ตามจ่าฝูงเสือใต้อันดับหนึ่ง 9 แต้ม
ศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ระหว่าง ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูง พบ เลเวอร์คูเซ่น ทีมอันดับ 3 ของตาราง ครึ่งแรกเกมเล่นมาได้เพียง 10 นาที กลายเป็น เลเวอร์ ที่บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ดาน-อักเซล ซากาดู ไปพลาดจ่ายบอลเสียหน้าเขตโทษ ก่อนจะโดน พาทริค ชิค ฉกมายิงจ่อๆ ไปติดเซฟ เกรกอร์ โคเบล แต่ปัดไปโดนขา มานูเอล อคานยี่ กระดอนเข้าประตูตัวเอหลังจากนั้น นาที 16 ดอทมุนด์ ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว 1-1 ยูเลียน บรันด์ท เปิดฟรีคิกไปให้ โธมัส เมอนิเย่ร์ สอดมาโหม่งก่อนที่บอลสุดท้ายจะไปโดน เฌเรมี่ ฟริมปง สกัดเข้าประตูตัวเองไป แต่ถึงกระนั้น นาทีที่ 20 เลเวอร์ พลิกนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะสวนกลับเร็วบอลมาถึง คาริม เบลลาราบี้ ลากขึ้นมาทางขวาก่อนจ่ายทะลุช่องให้ พาทริค ชิค หลุดเดี่ยวมาซัดแบบไม่จับส่งบอลตุงตาข่าย เกมเปิดหน้าแลกกันสนุกแบบไม่ให้หยุดหายใจ นาที 28 ทีมเยือนขยับหนีห่างเป็น 3-1 โรเบิร์ต อันดริช ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษส่งบอลข้ามกำแพงพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไมได้ จบครึ่งแรก เลเวอร์ บุกมานำ ดอร์ทมุนด์ 3-1 ครึ่งหลัง ดอร์ทมุนด์ เปิดฉากบุกใส่ทันที นาที 50 เกือบได้ประตูไล่มาจากลูกยิงไกลของ ยูเลียน บรันด์ท บอลกระดอนพื้นทำให้ เลนนาร์ท กริลล์ ต้องพุ่งปัดออกหลัง อย่างไรก็ตาม เลเวอร์ ได้โต้กลับมาและมาได้ประตูที่ 4 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาบอลชุลมุนในเขตโทษ ก่อนที่บอลจะมาเข้าทางปืนของ โยนาธาน ทาห์ กระโดยิงสวนตูมเดียวส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างสุดสวย ดอร์ทมุนด์ เดินหน้าบุกฝ่ายเดียว นาทีที่ 80 ใกล้เคียงจะได้ลูกที่สองสุดๆเมื่อ โจวานนี่ เรย์น่า หลุดเข้าเขตโทษแต่ยังยิงไปติดเซฟของ เลนนาร์ท กริลล์ อย่างไรก็ตามท้ายเกมนาที 88 เลเวอร์ ได้ประตูนำ 5-1 จากจังหวะที่ เฌเรมี่ ฟริมปง เปิดบอลถวายพานมาให้ มุสซ่า ดิยาบี้ ซัดเข้าประตูไป ช่วงทดเจ็บนาที 90+1 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปลอบใจจากลูกยิงของ สตีเฟ่น ทิกเกส ให้ ดอร์ทมุนด์ ไล่มาห่างๆ 2-5 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เลเวอร์คูเซ่น บุกถล่ม ดอร์ทมุนด์ 5-2
ติดตามผลบอลสดได้ที่ : ผลบอลสด ผลบอลสด THscore
ติดตามผลบอลล่าสุดได้ที่ : ผลบอลล่าสุด ผลบอลย้อนหลัง
ติดตามโปรแกรมบอลพรุ่งนี้ได้ที่ : โปรแกรมบอลพรุ่งนี้
ติดตามข้อมูลการวิเคาะห์บอลได้ที่ : วิเคราะห์บอล UFAPB