ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่สู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ไม่มีใครยอมใคร ลีดส์ เปิดบ้านตอนรับ อริตลอดกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ แมนยูฯจะออกนำก่อน 2-0 แต่ครึ่งหลัง ยูงทองมาตามตีเสมอ 2-2 ภายใน 1 นาที ก่อนจะมาโดนที่เด็ดตัวสำรอง ปีศาจแดง อย่าง เฟร็ดและอีแลงก้า ยิงคนละหนึ่งประตู บุกย้ำแค้นยูงทองถึงถิ่น 4-2
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 15 พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง
มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือทีม “ยูงทอง” พาทีมไม่ชนะใคร 3 ติดต่อกันในลีก โดยเกมนี้ได้ สจ๊วร์ต ดัลลัส สลัดอาการเจ็บกลับมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทำเกมรุกทางฝั่งขวา ประสานงานแนวรุกร่วมกับ โรดริโก้ โมเรโน่, แจ็ค แฮร์ริสัน และ แดเนี่ยล เจมส์
ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ของ ราล์ฟ รังนิค พาทีม ปีศาจแดง ไม่แพ้ใครในลีก 3 นัดติดต่อกัน เกมนี้ตัดสินใจส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ประสานงานแนวรุกร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยืนเป็นหอกตัวเป้า
โดยนัดนี้ทั้งเกมสภาพอากาศค่อนข้างเลวร้าย เนื่องจากที่ประเทศอังกฤษ โดนพายุเข้าทำให้สภาพสนามมีน้ำ ตลอดทั้งเกม แต่เรื่องความเดือดของทั้งคู่ก็ยังคงสู้กันแบบเอาเป็นเอาเอาตายเช่นเคย รูปเกมทั้งสองฝ่ายดูไปในทางทีมเยือนเดินหน้าบุก เจ้าบ้านอย่างหนักแต่ก็ไม่มีจังหวะหวาดเสียวอะไรมากมายนัก เกมค่อนข้างสูสีในครึ่งแรก และอีดอัดกันพอสมควร แต่แล้วนาที 34 แมนยู ไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมของ ลุค ชอว์ เปิดเข้ามาให้ กัปตันทีมอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จ่อๆ ส่งบอลเข้าสู่ตาข่าย
The header 👌
— Manchester United (@ManUtd) February 20, 2022
The celebration 😎
We enjoyed that, @HarryMaguire93 👏#MUFC | #LEEMUN pic.twitter.com/XOfOICBRqP
เท่านั้นไม่พอช่วงทดเวลา นาที 45+5 สกอร์ไหลห่างเป็น 2-0 เจดอน ซานโช่ ตักบอลให้ บรูโน่ ขึ้นโหม่งจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ และเป็นประตูปิดท้ายครึ่งแรกให้ แมนยู นำ ลีดส์ 2-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ลีดส์ มีการปรับทัพเปลี่ยนตัวรวดเดียวสองคนส่งทั้ง ราฟินญ่า และ โจ เกลฮาร์ท ลงมาเล่นแทน แจ็ค แฮร์ริสัน และ ดีเอโก้ ยอเรนเต้
ลีดส์ เริ่มครึ่งหลังอย่างคึกคัก นาที 53 มาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่ โรดรีโก้ ลากบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนหลอกยิงด้วยซ้ายส่งบอลเสียบใต้คานอย่างเหลือเชื่อ
เท่านั้นไม่พออีก 58 วินาทีต่อมา ลีดส์ ตามตีเสมอทันควัน 2-2 แดเนียล เจมส์ ได้บอลในเขตโทษก่อนตวัดเรียดไปที่เสาไกลให้ ราฟินญ่า ชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูไม่เหลือ
เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจบุกมาเป็นพายุ นาที 60 โจ เกลฮาร์ท จะหลุดเข้าเขตโทษมากดด้วยซ้าย แต่บอลไม่มีน้ำหนักไปเข้าซอง เด เคอา
หลังจากนั้น แมนยู มีการปรับหมากส่งทั้ง เฟร็ด และ แอนโธนีย์ อีแลงก้า ลงมาเล่นแทน ปอล ป็อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด ตามลำดับ
จนกระทั่งนาที 70 กลายเป็น แมนยู ที่พลิกขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากจังหวะที่ เฟร็ด ทำชิ่งกับ ซานโช่ ก่อนจะเป็นมิดฟิลด์ชาวบราซิลที่หลุดมายิงยัดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม
นาที 82 ลีดส์ หวิดตีเสมออีกครั้ง มาเตอุสซ์ คลิช ได้กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ เด เคอา ต้องปัดทิ้งออกหลัง
ช่วงท้ายเกม นาที 88 แมนยู ได้ประตูตอกฝาโลงนำ 4-2 จากจังหวะที่ บรูโน่ ไปฉกบอลได้จากแนวรับ ลีดส์ ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลถวายพานต่อให้ อีแลงก้า หลุดมาแปเน้นๆด้วยขวาส่งบอลตุงตาข่าย
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ ลีดส์ 4-2
ติดตามผลบอลสดได้ที่ : ผลบอลสด ผลบอลสด THscore
ติดตามผลบอลล่าสุดได้ที่ : ผลบอลล่าสุด ผลบอลย้อนหลัง
ติดตามโปรแกรมบอลพรุ่งนี้ได้ที่ : โปรแกรมบอลพรุ่งนี้
ติดตามข้อมูลการวิเคาะห์บอลได้ที่ : วิเคราะห์บอล UFAPB